เนื้อหา:
2. Sales Page, Landing Page, Home Page และ Website ต่างกันอย่างไร?
4. Sales Page เหมาะกับธุรกิจใด?
ธุรกิจคือการแข่งขัน ความต้องการมากขึ้นการแข่งขันก็ยิ่งสูงขึ้น จากสถิติการซื้อขายออนไลน์เกิดขึ้นทุกวัน คิดเป็น 40% ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วโลก มากกว่าหนึ่งพันล้านคน แน่นอนมันทำให้เข้าใจว่าเมื่อมีผู้คนออนไลน์จำนวนมาก มักจะขายสินค้าได้ง่าย แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น มีเพียง 22% จากจำนวนบริษัททั้งหมดที่ใช้หน้า Sales Page เพื่อขายสินค้าและพอใจอัตรา Conversion
ความจริงก็คือ Sales Page ของทุกอุตสาหกรรม อัตราเฉลี่ย Conversion อยู่ที่ 1% - 3% เท่านั้น นั่นหมายความว่าธุรกิจออนไลน์ส่วนใหญ่ยังไม่ประสบความสำเร็จในการ Sales Page เพื่อนำเสนอขายสินค้าหรือบริการ
Sales Page คือหน้าเว็บไซต์ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปิดการขาย เซลเพจเปรียบเสมือนพนักงานขาย มีเป้าหมายหลักแค่สิ่งเดียวคือ โน้มน้าวให้ผู้คนซื้อ Sales Page ที่ปิดการขายได้ต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี รวมถึงสื่อสารที่เฉียบขาด ให้ข้อเสนอที่ลูกค้าไม่สามารถต้านทานได้
ยกตัวอย่าง ธุระกิจอสังหาริมทรัพย์ Sales Page ขายคอนโด
สมมติคุณมีข้อเสนอขายคอนโดราคาถูก ผ่อนน้อย ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นพนักงานออฟฟิศ แต่การวิจัยของคุณพบว่ากลุ่มเป้าหมายนี้มีปัญหาแอบแฝง เช่น พวกเขาอยากได้คอนโด แต่ไม่มีเงินเก็บ และมีภาระค่าใช้จ่ายเยอะ
จะทำอย่างไรเพื่อให้ขายคอนโดได้ทันที?
ดังนั้น แทนที่จะบอกว่าคอนโดราคาถูก ผ่อนน้อย ให้บอกเป็น กู้เต็มได้ 100% อยู่ฟรี 24 เดือน ค่อยเริ่มผ่อนชำระ
คุณคิดว่าแบบไหนชนะใจกลุ่มเป้าหมาย?
ทั้งหมดแตกต่างกันที่บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบ
Sales Page คือหน้าปิดการขาย ทำหน้าที่เป็นพนักงานขาย “ต้องซื้อเลย” นำเสนอขายสินค้าหรือบริการผ่านข้อมเสนอที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้ยอดขาย
ตัวอย่าง Sales Page ของชาแนลที่นำเสนอขายสินค้า
Landing Page คือหน้าเว็บไซต์ ทำหน้าที่ดึงดูดให้ผู้เข้าชมร่วมทำกิจกรรมอะไรบางอย่าง เช่น การลงทะเบียนเพื่อรับของฟรี ทดลองใช้ฟรี แจกส่วนลด การเป็นสมาชิก แม้แต่การประกาศ ก็เป็นหน้าแลนดิ้งเพจ
ตัวอย่าง Landing Page ของชาแนลที่ต้องการให้ผู้เข้าชมกดติดตามใน Ig
Home Page คือหน้าแรกของเว็บไซต์ เปรียบเสมือนหน้าร้านค้าออนไลน์ ทำหน้าที่ต้อนรับให้คำแนะนำเบื้องต้น มีอะไร ต้องทำอย่างไร
ตัวอย่าง Home Page ของชาแนลที่บอกถึงภาพรวมของเว็บไซต์
Website คือองค์ประกอบภาพรวมของร้านค้าออนไลน์ทั้งร้าน ทำหน้าที่ให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้ และสนทนาโต้ตอบเกี่ยวกับธุรกิจนั้น ๆ ดังนั้น หนึ่งเว็บไซต์จะประกอบไปด้วย Home Page, Landing Page และ Sales Page ทั้งสามอยู่รวมกันได้ แต่มีบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบ ไม่เหมือนกัน
Sales Page อาจจะไม่จำเป็นถ้า… ธุรกิจของคุณไม่มีคู่แข่ง แต่หากธุรกิจของคุณเต็มไปด้วยการแข่งขัน อย่างดุเดือด คุณจำเป็นต้องใช้เซลเพจที่ทำหน้าเปรียบเสมือนพนักงานขาย มีเป้าหมายหลักแค่สิ่งเดียวคือ โน้มน้าวให้ผู้คนซื้อ
อ่านเพิ่มเติม: Sales Page องค์ประกอบใดช่วยเพิ่มยอดขาย?
เซลเพจจำเป็นไหม? และนี่คือคำตอบ
ช่วยเพิ่มยอดขาย ชนะคู่แข่ง
การจัดอันดับใน Google สูงขึ้น (SEO) ทราฟฟิคมากขึ้น มีโอกาศขายได้มากขึ้น
ส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้กลายเป็นมืออาชีพ
สร้างความไว้วางใจให้ลูกค้า ส่งผลให้มีการบอกปากต่อปาก
Sales Page เหมาะกับธุรกิจต้องการนำเสนอขายสินค้าที่แก้ปัญหาเฉพาะเจาะจง ภายใต้ข้อเสนอที่ลูกค้าไม่อาจปฏิเสธได้ ประสิทธิภาพของเซลเพจขึ้นอยู่กับธุรกิจและความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย
ยกตัวอย่าง เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน
Chanel ประกอบธุรกิจสินค้าแฟชั่น ขาย เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องสำอางและเครื่องประดับ
เน้นที่ธุรกิจเครื่องสำอาง ชาแนลแยกเป็น 2 ประเภทคือ Makeup กับ Skincare
Makeup ประกอบด้วย
FACE
Foundation - เซลเพจรองพื้น
Bronzer - เซลเพจบรอนเซอร์
Highlighter - เซลเพจไฮไลท์เตอร์
Blush - เซลเพจบลัชออน
Powder - เซลเพจแป้งพัฟ
Primer - เซลเพจไพรเมอร์
Concealer - เซลเพจคอนซีลเลอร์
EYES
Mascara - เซลเพจมาสคาร่า
Eyeshadow - เซลเพจอายแชโดว์
Eyeliner - เซลเพจอายไลเนอร์
Brow - เซลเพจดินสอเขียนคิ้ว
LIPS
Lipstick - เซลเพจลิปสติก
Liquid lipsticks - เซลเพจลิปสติกน้ำ
Lipgloss - เซลเพจลิปกลอส
Lip Liner - เซลเพจแปรงปัดขนคิ้ว
Lip Care - เซลเพจลิปมัน
บทความที่เกี่ยวข้อง:
รับทํา Sales Page, ออกแบบ Sales Page การันตีคุณภาพรับประกันคืนเงิน 100% เต็ม
“ถ้าต้องการสร้างองค์กรที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาว เวลาคุณปิดการขายไม่ได้ ให้เปิดความสัมพันธ์กับลูกค้าแทน”
– Patricia Fripp